ต่อจากครั้งที่แล้วนะครับเราได้เล่าเรื่อง V-1 และได้กล่าวถึง V-2 ไปนิดหน่อยนะครับ
V-2 หรือชื่อเต็มของมันคือ Vergeltungwaffe-2 หรือ อาวุธเพื่อการตอบโต้หมายเลขสอง ในทางเทคนิคมีชื่อว่า Aggregat-4 ( A-4 ) มันเป็นผลงานชิ้นแรกของโลกที่ทะยานขึ้นไปสู้ห้วงอวกาศ
จรวด V-2 จะถูกตั้งบนฐานยิงที่ตั้งฉากกับพื้นโลกใช้พลังเชื้อเพลิงเหลวขับเคลื่อนขึ้นตรงทะลุบรรยากาศของโลกสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 88 กิโลเมตรจากนั้นจะกลับเข้าสู้พื้นโลกในแนวเฉียงด้วยพลังเชื้อเพลิงและแรงโน้มถ่วงโลกที่ความเร็วกว่า 5,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร็วกว่าเสียงสี่เท่า หัวรบที่มีน้ำหนักกว่าหนึ่งตันนี้เมื่อเข้าทำลายเป้าหมายย่อมมีความสูญเสียที่รุนแรงยิ่ง V-2 มีระยะทำการสามารถทำลายเป้าหมาย 350 กิโลเมตรจากฐานยิง

ไม่น่าเชื่อว่า V-2 คือต้นธารแห่งความรู้เรื่องการผลิตมาจากนักฟิสิกส์ชาวสหรัฐอเมริกาผู้ถูกสังคมปฏิเสธบ้างก็ถูกมองว่าตัวตลกถึงขนาดที่หนังสือพิมพ์ค่ายดังอย่างนิวยอร์คไทม์เคยตีพิมพ์บทความดูถูกเขาในปี 1920 เมื่อเขาตีพิมพ์เรื่องจรวดและความเป็นไปได้ที่จะไปดวงจันทร์ แต่อย่างไรก็ดี อีก 49 ปีถัดมาเมื่อยานอวกาศอพอลโล่ 11 นำมนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์ได้ นิวยอร์คไทม์ก็ตีพิมพ์ข้อความแก้ไขยอมรับผิดที่เคยดูถูก
โรเบิร์ด กอดดาร์ด เป็นอาจารย์ นักฟิสิกส์ และนักประดิษฐ์ ที่หลังจากเขาสิ้นชีวิตไปแล้วเพิ่งจะได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ประดิษฐ์จรวดพลังงานเชื้อเพลิงเหลวคนแรกของโลก ระหว่างปี 1920 - 1941 เขาและทีมวิจัยได้ทำการทดลองยิง 34 ครั้ง ครั้งที่เยี่ยมที่สุดทำความสูงได้ 2.6 กิโลเมตรความเร็ว 885 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในการทดสอบเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 1937 ดูเหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกเพราะสี่ปีหลังจากนั้นจรวดเขาพุ่งไปได้เพียง 80 เมตรจากฐานยิง เมื่อถูกผู้คนดูถูก กอดดาร์ด จึงปิดตัวเองหลีกลี้จากสังคมเขาจะติดต่อแค่นักวิทยาศาสตร์ด้วยกัน และไม่กี่คนที่ติดต่อสื่อสารกับเขาคือนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน ชื่อ แวร์นแฮร์ ฟอน เบราน์
เบราน์ ได้ต่อยอดความรู้ของ กอดดาร์ด เมื่อบวกกับภูมิความรู้ทางวิศวกรรมการบินของเยอรมันมีแล้ว ผลลัพธ์คือ อาวุธที่รุนแรงและทรงพลานุภาพที่สุดเท่าที่มนุษย์รู้จัก แต่เมื่อ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ดูผลการทดลองที่สุดยอดของมัน กลับวิจารณ์ด้วยน้ำเสียงดูแคลน แต่กระนั้น เมื่อกองทัพรถถังที่ใหญ่ที่สุดในโลกของเขาประสบความพ่ายแพ้ในสมรภูมิโซเวียด ผู้นำทางทหารของเยอรมันจึงกลับมาพลิกฟื้นโครงการผลิตจรวด V-1 และ V-2 กว่าจะเพิ่งกำลังการผลิตได้เต็มที่ ก็เป็นช่วงสุดท้ายของสงครามที่กองทัพเยอรมันเสียทั้งโปแลนด์ อิตาลีและฝรั่งเศษ ดินแดนที่เคยครอบครอง นาซีเยอรมันใช้แรงงานทาสอย่างโหดร้ายในการก่อสร้างและผลิตจรวด จากการประเมินมีแรงงานทาสเสียชีวิตในโครงการนี้มากถึง 20,000 คน 9,000 ถูกบังคับให้ทำงานจนตาย 350 คนถูกลงโทษด้วยการแขวนคอ นอกจากนั้นต่างเจ็บป่วยล้มตายเพราะโรคภัยและความอดยาก จากการเร่งการผลิต V-2 จำนวน 5,200 ลูกถูกผลิตจากศูนย์วิจัยลับตามที่ต่างๆ แต่ฝั่งสัมพันธมิตรที่ส่งหน่อยคอมมานโดเข้าทำลายโกดังแหล่งผลิตและยึดจรวดไว้ได้จำนวนมาก นักการทหารต่างประเมินว่าการสั่งเร่งกาผลิตจรวดนำวิถีในยามที่ประเทศขาดแคลนทรัพยากรแะพลังงานนี้ คือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้กองทัพเยอรมันขาดแคลนการส่งบำรุงช่วบท้ายของสงครามโลกครั้งที่สอง

หลังจบสงครามทีมวิจัยอีกหลายคนเข้ามอบตัวต่อฝ่ายสัมพันธมิตรที่ออสเตรีย หลังถูกคุมขังในระบะเวลาสั้นๆ นักวิทยาศาสตร์และนักวิศวกรการบินของเยอรมันถูกส่งตัวไปยังสหรัฐอเมริกา เข้าทำงานในโครงการผลิตอาวุธจรวดนำวิถีต่างๆ คิดค้น พัฒนาอาวุธจรวดนำวิถี ติดหัวรบนิวเคลียร์ ระบบยิงจากอากาศสู่พื้นรหัส RASCAL ส่วนนักวิทยาศาสตร์และนักวิศวกรการบินเยอรมันคนอื่นๆต่างมีบทบาทสำคัญๆทั้งโครงการผลิตอาวุธและโครงการอวกาศของสหรัฐฯ
ส่วน แวร์นแฮร์ ฟอน เบราน์ ประสบความสำเร็จในฐานะวิศวกรจรวดขององค์การนาซ่า ช่วยสร้าง Saturn V ที่นำอพอลโล่เดินทางสู่ดวงจันทร์สมดังที่ โรเบิร์ต กอดดาร์ด ฝันไว้ซึ่ง แวร์นแฮร์ ฟอน เบราน์ ยังจำคำที่ กอดดาร์ด เคยพูดไว้ "มีการพิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ความฝันของวันวาน เป็นความหวังของวันนี้ และความหวังของวันนี้ จะเป็นความจริงในวันพรุ่งนี้"

เป็นบทความที่ 2 ของผมและเป็นตอนต่อจาก V-1 ที่เคยลง หากพิมพ์ผิดหรือตกหล่น ขออภัย ณ ที่นี้ สามารถโต้แย้ง หากผมพูดตรงไหนผิด แลกเปลี่ยนความรู้ ได้ ตรงคอมเม้นต์ด้านล่างน่ะครับ YERI รักทุกคนนะครับบบ
เขียนและเรียบเรียงโดย Achiroto <3 <3 <3
อ้างอิงรูปภาพ
*1 http://www.v2rocket.com/start/makeup/design.html
*2 https://en.wikipedia.org/wiki/V-2_rocket
*3 https://www.nasa.gov/feature/50-years-ago-the-first-flight-of-the-saturn-v/
อ้างอิงข้อมูล
- https://www.nasa.gov/centers/goddard/about/history/dr_goddard.html
- Hitler War ( หนังสือ ) เขียนโดย david irving
- https://en.wikipedia.org/wiki/V-2_rocket
บทความเขียนดีมากเลยอ่ะครับ