
1.โครงสร้าง
ในที่นี้จะเขียนถึงจุดเด่นเป็นหลักเท่านั้นนะครับ
1.1 วัสดุและการออกแบบให้ลดหน้าตัดเรดาร์
โครงสร้างของ Su-57 นั้นออกแบบให้ลดการสะท้อนเรดาร์ในทุกๆมุมตามสมัยนิยมของ เครื่องบินขับไล่ยุคที่5 นอกจากนั้นยังใช้วัสดุผสม(composite materials)ซึ่งเป็นวัสดุดูดซับคลื่นเรดาร์(Radar Absorbent Material/RAM) 70% ตามขนาดพื้นผิวและ 25% รวมถึงการจัดวางรูปแบบ โครงสร้างดูดซับคลื่นเรดาร์ (Radar Absorbent Structure/RAS) ของวัสดุที่ใช้ทำโครงสร้าง ทั้งหมดนี้ทำให้มันมีหน้าดัดสะท้อนเรดาร์ (radar cross section/RCS) เฉลี่ยทั้งลำประมาณ 0.1-1 ตารางเมตรสำหรับตัวต้นแบบเฟสแรก แต่สำหรับตัวที่จะออกจากสายการผลิตจะเล็กกว่านั้นเพราะจะใช้วัสดุผสมรุ่นใหม่ซึ่งจะลดการสะท้อนเรดาร์ไปอีก นอกจากนั้นกระจกครอบห้องนักบิน (canopy) ยังเคลือบ indium-tin-oxide ซึ่งจะทำให้ลดการสะท้อนเรดาร์จากห้องนักบิน (cockpit) ไปอีก 30%



1.2. การออกแบบให้กันวัตถุแปลกปลอมเข้าจุดสำคัญของเครื่องบิน
เนื่องจากสภาพอากาศของรัสเซียสามารถทำให้เกิด FOD (Foreign object damage) ได้ง่าย ดังนั้นเครื่องบินรัสเซียที่ต้องเข้าประจำการในประเทศตังเองนั้นต้องออกแบบให้ทนสิ่งนี้เพื่อลดความเสียหายหากโดนขณะเอาเครื่องขึ้นหรือร่อนลงจอด ยกตัวอย่างเช่น การออกแบบแผ่นปิดintakeของ คย.เพื่อป้องกัน FOD เข้าเครื่องยนต์

1.3.ความทนทานของโครงสร้าง
Su-57นั้นออกแบบให้มีอายุการใช้งาน30-35ปี(ประมาณ6000ชั่วโมงบิน อ้างอิงจากSu-35S) ซึ่งน้อยกว่าF-35ที่ออกแบบให้มีอายุการใช้งานอย่างน้อย8000ชั่วโมงบิน แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันก็มีตำบลอาวุธภายใน6จุดภายนอก6จุด

2.เครื่องยนต์และระบบควบคุมการบิน
สำหรับเครื่องต้นและเครื่องที่จะส่งมอบในล็อตแรกๆแรกนั้นจะใช้เครื่องยนต์ NPO Saturn AL-41F1 (“product 171”) จำนวน2เครื่องยนต์ซึ่งให้กำลัง8.8ตัน และ 14.5ตัน เมื่อเปิดสันดาปท้าย และมีอายุการใช้งาน6000ชั่วโมง แต่หลังจากนั้นจะใช้เครื่องยนต์ NPO Saturn"products 30" ซึ่งจะมีแรงขีบสูงสุดประมาณ 19ตันเมื่อเปิดสันดาปท้าย ในปี2023-2025 ซึ่งมีอายุการใช้งาน4000ชั่วโมง และ ท่อไอพ่นแบบ LOAN(Low-Observable Asymmetric Nozzle)แบบเดียวกับบนF-35

โดยทั้งคู่นั้นมีfull authority digital engine control (FADEC) และ thrust vector jets 3แกน ซึ่งจะทำงานร่วมกับระบบควบคุมการบินซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยใช้เครื่องบินมีสมรรถนะในการควบคุมมากขึ้น
ส่วนระบบควบคุมการบินนั้นจะใช้ digital fly-by-wire flight control เข้ามาช่วยควบคุม โดยจะรับข้อมูลจากนักบินและsensorต่างๆแล้วประมวลผลกับคอมพิวเตอร์บนเครื่องและไปควบคุมพื้นผิวบังคับอีกทีโดยจะมีสายfiber opticเป็นตัวกลางในการรับส่งข้อมูล ซึ่งจะไปควบคุมควบคุมอีกที
